คาคุโนะดาเตะ

หลังจากตระกูลอาชินะได้วางผังเมืองขนาดใหญ่ในปี ค.ศ. 1620 ในช่วงต้นยุคเอโดะ เมืองคาคุโนะดาเตะก็เจริญรุ่งเรืองในฐานะเมืองปราสาทของตระกูลซาตาเกะ ถนนที่เรียงรายไปด้วยบ้านซามูไรถูกเรียกว่า "อุจิมาจิ" (เมืองชั้นใน) และยังคงรักษาเอกลักษณ์เฉพาะของเมืองซามูไรไว้ เช่น ผังบ้านเรือน บ้านหลังใหญ่ ประตู และโกดังสินค้าจากปลายยุคเอโดะ ถนนสายหลักของบ้านซามูไรเหล่านี้ได้รับการกำหนดให้เป็น "เขตอนุรักษ์สำคัญสำหรับกลุ่มอาคารดั้งเดิม" และได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นมรดกทางวัฒนธรรม เขตอนุรักษ์แห่งนี้ตั้งอยู่เกือบใจกลางเมืองซามูไรเก่า และสอดคล้องกับบ้านซามูไรของซามูไรระดับบนและระดับกลาง กำแพงเมืองทอดยาวไปตามถนนกว้างใหญ่ ต้นซากุระและต้นเฟอร์ขนาดใหญ่ที่ห้อยระย้าเป็นดงไม้ลึก ก่อเกิดเป็นพื้นที่อันน่าหลงใหลที่ยังคงสัมผัสได้ถึงวิถีชีวิตในอดีต

ตระกูลอิชิงุโระเป็นหนึ่งในหกบ้านพักซามูไรที่ยังหลงเหลืออยู่ในคาคุโนะดาเตะ และลูกหลานโดยตรงยังคงอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่มาจนถึงปัจจุบัน อาคารหลังนี้เป็นอาคารที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังหลงเหลืออยู่ (สร้างขึ้นในช่วงกลางยุคเอโดะ ในยุคบุงกะ) และเป็นบ้านพักซามูไรเพียงหลังเดียวในคาคุโนะดาเตะที่ลูกหลานยังคงอาศัยอยู่ที่นี่ คุณสามารถเข้าชมห้องต่างๆ และเยี่ยมชมบ้านได้ ในระหว่างการเยี่ยมชม เจ้าหน้าที่จะพาชมและอธิบายเป็นภาษาอังกฤษเกี่ยวกับลักษณะเฉพาะของอาคารและวิถีชีวิตดั้งเดิมของญี่ปุ่น

ฟุรุชิโระยามะเป็นภูเขาสูง 168 เมตร ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองคาคุโนะดาเตะ ปัจจุบันมีการพัฒนาเส้นทางเดินเขาขึ้นไปยังปราสาทคาคุโนะดาเตะ ใช้เวลาเดิน 15 นาทีสู่ยอดเขา และเป็นจุดแนะนำที่คุณสามารถชมวิวเมืองคาคุโนะดาเตะแบบพาโนรามา

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดแสดงผลงานของศิลปินท้องถิ่น รวมถึงผลงานชิ้นเอกของจิตรกรญี่ปุ่นสมัยใหม่ ฮิราฟุกุ โฮอัน และ โฮตากะ ฮาคุโฮ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่เดิมของบ้านพักของอิคุฟุมิ ซาตาเกะ แห่งตระกูลคิตะในยุคโชโฮ ความกลมกลืนระหว่างอาคารพิพิธภัณฑ์และซากบ้านพักซามูไรก็เป็นจุดเด่นเช่นกัน

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดขึ้นในปี พ.ศ. 2527 เพื่อส่งเสริมงานหัตถกรรมหวาย ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นงานฝีมือดั้งเดิมของชาติ ภายในมีการสาธิตงานหัตถกรรมหวาย ให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสเทคนิคอันประณีตของช่างฝีมืออย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงวัสดุที่เกี่ยวข้องกับงานหัตถกรรม วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของเมือง นอกจากนี้ยังมีศูนย์ธุรกิจและร้านน้ำชาให้บริการ เพื่อให้ผู้เข้าชมได้ผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับช่วงเวลาแห่งความสุข

อดีตเมืองพ่อค้าโทมาจิเป็นเมืองคู่ขนานกับอุจิมาจิ (ย่านที่พักอาศัยของซามูไร) บ้านเรือนพ่อค้าเรียงรายสร้างบรรยากาศอันเก่าแก่ อาคารและโกดังสินค้าเก่าแก่จำนวนมากยังคงหลงเหลืออยู่ และปัจจุบันพื้นที่เหล่านี้ยังคงได้รับการทะนุบำรุงและใช้เป็นร้านค้าและร้านอาหาร

บ้านตระกูลอันโด (ทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ของเมือง) โกดังของบริษัทอันโด บริวเวอรี่ จำกัด ในชิโมชินมาจิ เป็นโกดังที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังหลงเหลืออยู่ในภูมิภาคโทโฮคุ โกดังที่หันหน้าเข้าหาถนนแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1891 (เมจิ 24) หลังจากเรียนรู้จากเหตุการณ์ไฟไหม้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในโทมาจิ (เมืองพ่อค้า) โกดังนี้ใช้อิฐที่เผาที่ชิราอิวะในคาคุโนดาเตะ และปัจจุบันเปิดให้สาธารณชนเข้าชมเป็นโกดังเก็บของ

คุณสามารถซื้อผลไม้ตามฤดูกาล ผักป่า และเห็ดป่าที่เก็บเกี่ยวในอาคิตะได้ในราคาประหยัด เพลิดเพลินกับอาหารว่างที่ทำจากผลไม้ตามฤดูกาลในห้องนั่งเล่นภายในร้าน